หน้าแรก

The Globalization

globalization-001

Globalization คืออะไร พร้อมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

Globalization หรือ โลกาภิวัตน์ คือ การปฏิสัมพันธ์และเป็นความบูรณาการระหว่างบุคคล องค์กร และรัฐบาลทั่วโลก ในอีกมุมหนึ่งก็สามารถอธิบายได้ว่าเป็นผลลัพธ์ของการพัฒนาในด้านต่าง ๆ กระจายออกไปทั่วโลกทั้งเรื่องการสื่อสาร ด้านคมนาคม และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งสัมพันธ์กับปัจจัยแวดล้อมทั่วไป ไม่ว่าบุคคลจะอยู่ตรงไหน ที่ใด ก็สามารถรับรู้สิ่งเหล่านี้ รวมถึงอาจได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากระบบสารสนเทศที่ก้าวล้ำขึ้นด้วย

จุดเริ่มต้นของการเกิด Globalization

หากย้อนกลับไปในอดีค การใช้คำว่า “Globalization” หรือ “โลกาภิวัตน์” เกิดขึ้นช่วงต้นศตวรรษที่ 20 จากนั้นถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในช่วงทศวรรษ 1990 เพื่อจุดประสงค์สำคัญในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นช่วงหลังจากหมดยุคสงครามเย็น
อย่างไรก็ตามได้มีการค้นหาต้นกำเนิดของคำนี้อย่างแท้จริงเชื่อว่าน่าจะมีมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 หรือ 19 เพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการขนส่งและการสื่อสารเริ่มมีความครอบคลุมทั่วโลกมากขึ้น การค้าระหว่างประเทศเติบโต มีการแลกเปลี่ยนความคิด อารายธรรม ความเชื่อ และวัฒนธรรม จากผู้คนต่างถิ่น โดยโลกาภิวัตน์นี้ยังเชื่อมโยงกับระบบเศรษฐกิจและสังคมอันถือเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญของหน้าประวัติศาสตร์โลกยุคเก่ากับยุคใหม่

Globalization กับสิ่งที่เกิดขึ้นในด้านเศรษฐกิจ

เมื่อมองความเกี่ยวข้องระหว่าง Globalization หรือ โลกาภิวัตน์กับเรื่องเศรษฐกิจจะเห็นว่ามีความเชื่อมโยงกันในด้านสินค้า บริการ ข้อมูล เทคโนโลยี และทรัพยากรต่าง ๆ ด้วยการขยายตัวอย่างรวดเร็วส่งผลให้กิจกรรมด้านเศรษฐกิจมีความเสรี ไร้อุปสรรคในเชิงการค้าพรมแดนรวมถึงการค้าระหว่างประเทศ ระหว่างทวีป ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนมากคือการขนส่งทางเรือ ไล่มาตั้งแต่เรือกลไฟ จนถึงเรือขนส่งคอนเทนเนอร์ หรือระบบขนส่งทางรางจากหัวจักรไอน้ำ สู่รถไฟฟ้าในปัจจุบัน

Globalization ในด้านเศรษฐกิจนี้ยังมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาโครงข่ายสื่อสารพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ไล่ตั้งแต่ยุคของการใช้โทรเลข มาจนถึงการมีโทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน นี่คืออีกตัวกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้โลกเติบโตแบบก้าวกระโดดอันหมายถึงความโลกาภิวัตน์ได้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

ความเกี่ยวข้องของ Globalization กับด้านอื่น ๆ

ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจหรือการสื่อสารที่สังเกตเห็นชัดเจนเท่านั้น แต่ Globalization ยังส่งผลถึงความเกี่ยวข้องในด้านอื่นต่อการใช้ชีวิตของทุกคนด้วย ซึ่งเมื่อแบ่งออกมาแล้วสรุปได้ ดังนี้

1. ด้านสิ่งแวดล้อม

สิ่งที่สังเกตชัดเจนมากคือในช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกให้ความสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อย ๆ มีกฎระเบียบ ข้อบังคับที่หลายประเทศต้องประสานงานระหว่างกันเพื่อเป็นข้อกำหนดตกลงทำความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ส่วนมากมักอยู่ในรูปแบบของสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม

2. ด้านวัฒนธรรม

หากอธิบายความเกี่ยวข้องระหว่างโลกาภิวัตน์กับวัฒนธรรมอาจบอกได้ว่าเป็นการถ่ายทอดแนวคิดและค่านิยมให้แผ่ขยายออกไปทั่วโลกเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในสังคมแม้อยู่ห่างไกลแต่ก็เข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ได้อย่างดี ตัวอย่างที่ชัดเจนมากอย่างเรื่องของอาหาร เป็นวัฒนธรรมเฉพาะแต่ละท้องถิ่นซึ่งคนประเทศอื่นสามารถเรียนรู้ได้ผ่านสื่อหลายช่องทาง ไปจนถึงวัฒนธรรมด้านการแต่งกาย ภาษา ดนตรี ศิลปะ และเทรนด์ในแต่ละช่วงเวลา

3. ด้านการเมือง

ในมุมมองทางการเมือง Globalization อาจอธิบายได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ระบบการเมืองทั่วโลกเติบโตทั้งด้านขนาดและความซับซ้อนไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลของแต่ละประเทศ องค์กรระดับโลก ตลอดจนองค์ประกอบที่มีความอิสระต่อภาครัฐอย่างประชาชน องค์กรเอกชน องค์การเคลื่อนไหวทางสังคมต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้บ่งบอกได้ว่าทุกคนทั่วโลกสามารถสื่อสารและเรียนรู้ที่จะอยู่ภายใต้ความเท่าเทียมและเหมาะสม แม้ในความเป็นจริงอาจยังไม่ใช่สิ่งที่ได้รับเหมือนกันทั้งหมดแต่ก็มีแนวโน้มในทิศทางที่ดีมากขึ้น

4. ความเท่าเทียมทางเพศ

Globalization หรือ โลกาภิวัตน์ ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างความเท่าเทียมทางเพศให้เกิดขึ้นด้วย สังเกตจากยุคอดีตผู้ชายมักเป็นผู้นำครอบครัว และผู้นำในด้านต่าง ๆ แต่ปัจจุบันผู้หญิงมีบทบาทและสิทธิเท่าเทียมกันมากขึ้น นั่นเพราะส่วนหนึ่งการสื่อสาร การแสดงออกของผู้คนบ่งบอกให้ทั่วโลกรู้ว่าจะชายหรือหญิงก็มีความรู้ ทักษะไม่ได้แตกต่างกัน
Globalization (โลกาภิวัตน์) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งตราบใดที่โลกยังคงพัฒนาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ดังนั้นในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งก็ต้องก้าวตามให้ทันด้วยเช่นกัน นอกจากไม่ตกยุคสมัยแล้วยังได้รับประโยชน์อีกหลายด้าน